วันอาทิตย์ที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

Gundam Seed Astray

กันดั้มแอสเทรย์
กันดั้มแอสเทรย์ (ญี่ปุ่น:ガンダムアストレイ ; อังกฤษ:Gundam Astray) เป็นรุ่นของโมบิลสูทซึ่งเป็นมีบทบาทสำคัญในการ์ตูนญี่ปุ่น มังงะ โมบิลสูทกันดั้มซี้ด แอสเทรย์ กันดั้มแอสเทรย์รุ่นแรกได้รับการออกแบบโดยจุนอิจิ อะคุทสึ

กันดั้มแอสเทรย์เป็นโมบิลสูทที่สถาบันมอเกนเรตของอาณาจักรอ็อบได้พัฒนาอย่างลับๆที่เฮลิโอโปลิสโดยใช้ข้อมูลที่ขโมยมาจากการช่วยพัฒนา GAT-Xซีรีส์ให้กลุ่มพันธมิตรโลก ลักษณะสำคัญของกันดั้มแอสเทรย์ก็คือเกราะที่มีน้ำหนักเบาเพื่อให้มีความคล่องตัวสูงสุด กันดั้มแอสเทรย์ยังมีอาวุธที่จำลองมาจาก GAT-Xซีรีส์อย่างบีมไรเฟิลและบีมเซเบอร์ มอเกนเรตได้ใช้รูปแบบพื้นฐานของกันดั้มแอสเทรย์ในการพัฒนาโมบิลสูทรุ่นผลิตจำนวนมากคือM1แอสเทรย์และชาวอาณานิคมดาวอังคารยังใช้ข้อมูลของแอสเทรย์ซีรีส์พัฒนา GSF-YAM01 เดลต้าแอสเทรย์ ของตัวเอง นอกจากนี้ โมบิลสูท YMF-X000A เดรดน็อตกันดั้ม ยังมีชื่อเล่นว่า Xแอสเทรย์ และเมื่อ โลว์์ กิล ได้ใช้ชิ้นส่วนอะไหล่ของ ZGMF-X12A เทสตาเมนต์กันดั้ม มาดัดแปลงเป็นโมบิลสูทตัวใหม่ยังได้ตั้งชื่อว่า กันดั้มแอสเทรย์เอาต์เฟรม แต่ในทางเทคนิคแล้วทั้งคู่ไม่มีความเกี่ยวข้องกับกันดั้มแอสเทรย์แต่อย่างใด


กันดั้มแอสเทรย์โกลด์เฟรม
มีอีกชื่อหนึ่งว่า โปรโตซีโร่วัน MBF-P01 กันดั้มแอสเทรย์โกลด์เฟรมมีลักษณะพิเศษที่แฮนด์ปลั๊กสำหรับจ่ายพลังงานให้อาวุธนั้นสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์สำหรับโมบิลสูทของกลุ่มพันธมิตรโลกได้เช่นเดียวกับของอ็อบเอง เมื่อZAFTได้โจมตีเฮลิโอโปลิส อ็อบได้ทำลายโรงงานที่พัฒนาโปรเจกต์แอสเทรย์เพื่อปิดเป็นความลับ แต่โคออร์ดิเนเตอร์ รอนโด กิน่า ซาฮาคุ ได้ใช้โกลด์เฟรมหนีไปจากเฮลิโอโปลิสโดยใช้บาซูก้าของดูเอลกันดั้ม เนื่องจากแอสเทรย์นั้นไม่ได้ออกแบบไว้ให้ใช้อาวุธหนัก แขนขวาของโกลด์เฟรมจึงได้รับเสียหาย ซึ่งรอนโดได้สลัดแขนข้างนี้ทิ้งไปที่เฮลิโอโปลิส ในภายหลังรอนโดได้ใช้โกลด์เฟรมเข้าต่อสู้กับแอสเทรย์เรดเฟรมของโลว์์ กิลจนกระทั่งได้รับความเสียหายอย่างหนัก


กันดั้มแอสเทรย์โกลด์เฟรมอามัตสึ
อาณาจักรอ็อบได้ทำการปรับปรุงแอสเทรย์โกลด์เฟรมเป็น MBF-P01-Re กันดั้มแอสเทรย์โกลด์เฟรม อามัตสึ โดยส่วนแขนขวาที่นั้นได้ใช้แขนขวาของบลิทซ์กันดั้มที่เก็บมาได้ เทคโนโลยีพรางตัวมิราจคอลลอยด์ของบลิทซ์กันดั้มยังถูกนำมาใช้กับโกลด์เฟรมด้วย แขนข้างนี้ยังสามารถใช้เกราะPSได้เหมือนเดิม อาวุธไทรเครอสที่ติดแขนนั้นเอาบีมเซเบอร์ออกไป ส่วนหัวก็ถูกเปลี่ยนเป็นแบบที่มีเซ็นเซอร์เสริมแบบโมโนอายติดตั้งไว้ อาวุธซึ่งเป็นจุดเด่นของโกลด์เฟรมอามัตสึก็คือ มากะโนะอิคุทาจิ ซึ่งเป็นตะขอที่ใช้ล็อกดูดพลังงานมาจากโมบิลสูทเป้าหมาย แบ็คแพ็คด้านหลังมีฉมวกมากะชิระโฮโกะ ซึ่งสามารถยิงและดึงกลับมาได้ด้วยสายเคเบิล ฉมวกนี้ยังใช้เทคโนโลยี PS จึงมีพลังในการเจาะทะลวงสูง
ต่อมาในภายหลัง รอนโดก็ถูก ไก มุราคุโมะ สังหาร และโกลด์เฟรมก็ถูก รอนโด มิน่า ซาฮาคุ น้องสาวฝาแฝดนำไปปรับปรุงอีกทีเป็น MBF-P01-Re2 กันดั้มแอสเทรย์โกลด์เฟรม อามัตสึมิน่า ซึ่งมีจุดแตกต่างจากของเดิมคือส้นสูงที่เท้าทั้งสองข้าง และติดตั้งอาวุธเพิ่มคือดาบโทตซึกะโนะซึรุงิ และ กงเล็บที่แขนซ้าย ซึมุฮะโนะทาจิ นอกจากนี้ มิน่ายังได้พัฒนา มากะโนะอิคุทาจิจนสมบูรณ์ซึ่งทำให้สามารถดูดพลังงานจากโมบิลสูทที่อยู่ใกล้ๆตัวได้โดยไม่ต้องใช้ตะขอ
ในเนื้อเรื่องของภาค เอ็กซ์แอสเทรย์ โกลด์เฟรมอามัตสึมิน่าได้รับความเสียหายเมื่อไคท์ มาดิแกนได้ใช้ต่อสู้กับ ZGMF-Z12A เทสตาเมนต์กันดั้มจึงได้ปรับปรุงอีกครั้งด้วยโอคิตสึโนะคางามิ ซึ่งพัฒนาโดยหยุน เซฟาน โอคิตสึโนะคางามิเป็นอุปกรณ์เอนกประสงค์ติดแขนแทนซึมุฮะโนะทาจิและสามารถใช้สร้างบีมชิลด์หรือมีดบีมก็ได้ ซึ่งโหมดมีดบีมสามารถยิงออกไปแล้วดึงกลับมาด้วยสายเคเบิล ส่วนดาบโทตซึกะโนะซึรุงิถูกถอดออกเป็นแค่อาวุธเสริมเท่านั้น

กันดั้มแอสเทรย์เรดเฟรม
มีอีกชื่อหนึ่งว่า โปรโตซีโร่ทูว์ MBF-P02 กันดั้มแอสเทรย์เรดเฟรมได้รับการติดตั้งระบบปฏิบัติการซึ่งทำให้แม้แต่คนธรรมดาก็สามารถควบคุมได้ เรดเฟรมถูกค้นพบในซากของเฮลิโอโปลิสโดย โลว์ กิล สมาชิกของจังค์กิลด์ซึ่งได้เก็บเรดเฟรมไว้ใช้งานเอง ซึ่งหลังจากที่ถูกศัตรูพยายามชิงเรดเฟรมไปแล้ว โลว์จึงได้หาอาวุธใหม่ นั่นคือดาบคะตะนะ เกอร์เบร่าสเตรท ซึ่งเป็นดาบโลหะจึงไม่สิ้นเปลืองพลังงานในการใช้งาน เมื่อเทียบกับดาบของ ZGMF-1017 จินน์ ของ ZAFTแล้วเกอร์เบร่าเสตรทมีความคมกว่ามากและยังหุ้มแอนติบีมโค้ตติ้งไว้ด้วย เรดเฟรมเสียแขนขวาไปจากการต่อสู้กับโกลด์เฟรมของรอนโด กิน่า ซาฮาคุ แต่โลว์ก็ได้ซ่อมแขนของโกลด์เฟรมที่เก็บมาจากเฮลิโอโปลิสและเอามาใช้แทน
เมื่อโลว์ไปยังอ็อบ เรดเฟรมก็ได้รับการซ่อมแซมจนสมบูรณ์และได้แบ็คแพ็คของ M1แอสเทรย์มาดัดแปลงและติดตั้งให้เรดเฟรมซึ่งทำให้สามารถบินกลางอากาศได้ ในเนื้อเรื่องของอะนิเมะสั้นสำหรับโฆษณากันพลาของแอสเทรย์ โลว์ยังเคยประมูลได้ส่วนหัวของโมบิลสูท TMF/A-802 บาคูว มาดัดแปลงเป็นถุงมือให้เรดเฟรมและสามารถใช้บีมเซเบอร์ของบาคูวเป็นดาบสองปลายได้ แต่หัวบาคูวนี้ถูกพวก ZAFTตามมาทำลายในภายหลัง ในเนื้อเรื่องของภาคแอสเทรย์อาร์ โลว์ยังได้สร้างยูนิตพาวเวอร์โหลดเดอร์ขนาด60เมตรซึ่งเหมือนกับเป็นโมบิลสูทขนาดยักษ์ที่เรดเฟรมควบคุมอยู่ และมีอาวุธเป็นเกอเบร่าสเตรทขนาดยักษ์ที่ยาวตลอดด้ามถึง 150เมตร เมื่อยูนิตพาวเวอร์โหลดเดอร์นี้ถูก ZGMF-X11A รีเจเนเรตกันดั้ม ทำลาย โลว์ก็ได้ปรับปรุงเรดเฟรมเป็น พาวเวิร์ดเรด ซึ่งมีส่วนหัวไหล่ที่ใหญ่ขึ้นเพื่อให้มีกำลังมากพอที่จะเหวี่ยงเกอร์เบร่าสเตรทยักษ์ได้เอง แต่ต่อมาโลว์ก็แปลงเรดเฟรมกลับไปเป็นแบบดั้งเดิมอีกครั้ง
ในเนื้อเรื่องของภาค เดสทินีแอสเทรย์ โลว์ก็ได้ดัดแปลงเรดเฟรมอีกครั้งในช่วงที่อยู่บนดาวอังคาร โดยติดตั้งเกราะมาร์สแจ็คเก็ต ซึ่งมีรูปร่างคล้ายโมบิลสูทของ ZAFT (ในความเป็นจริงแล้วจะคล้ายกับเกลกุ๊กในภาค Universal Century) เกราะนี้จะคลุมเรดเฟรมไว้ทั้งตัวเพื่อป้องกันชิ้นส่วนของเรดเฟรมจากสภาพแวดล้อมอันทุรกันดารของดาวอังคารและสามารถใช้เข้าสู่บรรยากาศโลกได้ เกราะมาร์สแจ็คเก็ตบางส่วนสามารถปลดออกได้เพื่อเพิ่มความคล่องแคล่ว ด้านหลังมีบีมแคนนอนคู่ซึ่งเป็นปลอกดาบของเกอเบร่าเสตรทด้วย เรดเฟรมมาร์สแจ็คเก็ตถูกชาวอาณานิคมดาวอังคาร ดิเอโก โลเวลขโมยไป แต่ได้นำมาคืนให้โลว์หลังเข้าร่วมในเหตุการณ์ เบรกเดอะเวิลด์ โลว์จึงได้ถอดมาร์สแจ็คเก็ตออกแล้วติดตั้งไว้กับแอสเทรย์พลเรือนของจังค์กิลด์แล้วยกให้ดิเอโกไปใช้งานแทน
ในเนื้อเรื่องของภาค วีเอสแอสเทรย์ กลุ่มไลบราเรียนได้สร้างเรดเฟรมเครื่องที่สองและให้คาร์บอนฮิวแมนของอุน โนเป็นนักบิน เรดเฟรมเครื่องที่สองนี้ใช้ดาบคะตะนะที่เรียกว่า ไทเกอร์เพียร์ส เป็นอาวุธหลัก


กันดั้มแอสเทรย์บลูเฟรม
มีอีกชื่อหนึ่งว่า โปรโตซีโร่ทรี MBF-P03 กันดั้มแอสเทรย์บลูเฟรมนี้ได้รับการบันทึกข้อมูลอุปกรณ์ต่างๆไว้โดยรอนโด กิน่า ซาฮาคุเมื่อครั้งที่เฮลิโอโปลิสถูกโจมตี กันดั้มแอสเทรย์บลูเฟรมถูกโลว์์ กิล ค้นพบพร้อมกับเรดเฟรม แต่ก็มอบให้ ไก มุราคุโมะ ไป ไกเป็นหนึ่งในทหารรับจ้าง เซอร์เพนท์เทล ที่มาทำลายหลักฐานเกี่ยวกับโปรเจกต์แอสเทรย์ แต่หลังจากที่ถูกนายจ้างทรยศจึงเก็บบลูเฟรมไว้เป็นโมบิลสูทประจำตัว เนื่องจากมีข้อมูลของอุปกรณ์ทั้งหมดอยู่ไกจึงสามารถปรับแต่งอุปกรณ์ให้บลูเฟรมใช้ได้ กันดั้มแอสเทรย์บลูเฟรมจึงสามารถใช้งานอาวุธหนักอาวุธหนักอย่างบาซูก้าและมิสไซล์ลันเชอร์ หรือ สเกลซิสเต็ม ซึ่งเป็นระบบขับเคลื่อนใต้น้ำของ ZAFT
กันดั้มแอสเทรย์บลูเฟรมเซคันด์
ในเนื้อเรื่องของนิยายภาพ แอสเทรย์บี นั้น กันดั้มแอสเทรย์บลูเฟรมได้รับความเสียหายอย่างหนักในการสู้กับ GAT-01D ลองแด็กเกอร์ ของอีเลฟเว่น โซเซียส ซึ่งไกก็ได้ปรับปรุงบลูเฟรมด้วยความช่วยเหลือของโลว์์ และ เอริก้า ซิมมอนส์ แห่งมอเกนเรต ซึ่งบลูเฟรมร่างสองนี้ มีสองแบบคือบลูเฟรมเซคันด์ L โดยสามารถติดตั้ง แท็คติคอลอาร์มส์ ซึ่งเป็นแบ็คแพ็คที่สามารถบินแยกจากบลูเฟรมได้ทั้งยังหุ้มแอนติบีมโค้ตติ้งเพื่อการป้องกันอาวุธบีม แท็คติคอลอาร์มส์นี้ติดตั้งปืนกลแก็ตลิ่ง 90 มม.เอาไว้และสามารถปรับมาเป็นดาบขนาดใหญ่ได้ด้วย เกราะของบลูเฟรมเซคันด์ Lมีสองชั้น ซึ่งชั้นที่สองนั้นเป็นเกราะ PSที่จะทำงานเมื่อเกราะชั้นแรกที่อยู่ภายนอกแตกออก
บลูเฟรมเซคันด์แบบหนึ่งก็คือ บลูเฟรมเซคันด์ G ซึ่งเน้นการใช้งานอาวุธต่างๆ เช่น สไนเปอร์แบ็คแพ็คซึ่งเป็นบีมไรเฟิลพิสัยไกล บริเวณค็อกพิตของบลูเฟรมเซคันด์ Gยังเสริมเกราะ PSไว้โดยรอบ ไกยังได้ปรับแต่งส่วนเท้าและเสริมท่อขับดันแบบครีบและมีดอาเมอร์ชไนเดอร์หกเล่มไว้ที่ส่วนไหล่
ส่วนหัวของบลูเฟรมเซคันด์ติดตั้งระบบรีโมตคอนโทรลสำหรับควบคุมแบ็คแพ็คแบบต่างๆไว้ อาวุธที่รุนแรงที่สุดของบลูเฟรมเซคันด์ก็คือปืนโพซิตรอน โลเอนกรีน แบบเดียวกับของยานอาร์คแองเจิ้ล แต่มีขนาดเล็กกว่า เนื่องจากโลเอนกรีนใช้เตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ฟิชชั่นเป็นแหล่งพลังงานแยกต่างหาก แต่บลูเฟรมเซคันด์จะไม่มี นิวตอนแจมเมอร์แคนเซลเลอร์ จึงใช้งานปืนนี้ได้อย่างจำกัดมาก
ในมังงะโมบิลสูทกันดั้มซี้ด เฟรมแอสเทรย์ กันดั้มแอสเทรย์บลูเฟรมได้พัฒนาไปเป็นกันดั้มแอสเทรย์บลูเฟรมเธิร์ดเพื่อใช้ต่อสู้ในป่าทึบโดยเฉพาะ โดยเพิ่มประสิทธิภาพของเสาอากาศVฟิน ที่แขนติดตั้งตะขอและใบมีดเพื่อใช้ตัดสิ่งกีดขวาง ที่เอวติดตั้งไรเฟิลไว้สองกระบอกและเสริมสมรรถนะของท่อขับดันให้ปรับทิศทางได้ง่ายขึ้น ที่น่องทั้งสองยังติดใบมีดไว้ เนื่องจากการใช้บีมในป่าอาจทำให้ไฟไหม้ได้ ไกจึงไม่ได้ติดอาวุธบีมไว้ด้วย เนื่องจากการดัดแปลงเป็นบลูเฟรมเธิร์ดใช้ชิ้นส่วนจากภายนอกล้วนๆ ในภาค วีเอสแอสเทรย์ จึงได้เปลี่ยนกลับไปเป็น บลูเฟรมเซคันด์รีไวส์ โดยดัดแปลงดาบแท็คติคอลอาร์มส์ให้สามารถแยกใบมีดออกมาติดกับแขนเป็นทอนฟาและสามารถแยกปืนกลแก็ตลิ่งออกมาได้
หนึ่งในอุปกรณ์เสริมของบลูเฟรมเซคันด์ G ก็คือเกราะฟุลอาร์เมอร์เฟสชิฟท์ ซึ่งเป็นเกราะ PSที่สามารถหุ้มบลูเฟรมเซคันด์ได้ทั้งตัวและออกแบบให้ใช้เข้าสู่ชั้นบรรยากาศโลกได้ ในเวลาปกติจะติดตั้งไว้เป็นแบ็คแพ็คเหมือนแท็คติคอลอาร์มส์ เนื่องจากถูกใช้งานหลังบลูเฟรมเธิร์ด จึงเรียกร่างนี้ว่าบลูเฟรมโฟรธ์


กันดั้มแอสเทรย์กรีนเฟรม
ในมังงะโมบิลสูทกันดั้มซี้ด เฟรมแอสเทรย์ได้เปิดเผยว่ามี MBF-P04 กันดั้มแอสเทรย์กรีนเฟรมเป็นกันดั้มแอสเทรย์เครื่องที่สี่ ซึ่งทรอยา โนวาล สมาชิกของกองโจรต่อต้านสาธารณรัฐเอเชียตะวันออกได้รับมาจาก แบรี่ โฮ แอสเทรย์กรีนเฟรมมีเซนเซอร์สีเหลืองแตกต่างจากเครื่องก่อนหน้านั้นซึ่งเป็นสีเขียว อาวุธพิเศษของแอสเทรย์กรีนเฟรมก็คือ ทวินซอร์ดไรเฟิล ซึ่งเป็นบีมไรเฟิลที่สามารถกางและยืดออกเป็นดาบสองปลายได้ แอสเทรย์กรีนเฟรมยังมีระบบปัญญาประดิษฐ์ซึ่งสามารถเรียนรู้ได้ไว้คอยช่วยสนับสนุนในการควบคุม ซึ่งเมื่อระบบนี้สามารถเก็บข้อมูลจนพัฒนาตัวเองได้มากพอก็จะทำให้อัตราตอบสนองต่อนักบินสูงมากกว่ารุ่นก่อนๆ

กันดั้มแอสเทรย์มิราจเฟรม
ปรากฏตัวในนิยายประกอบภาพโมบิลสูทกันดั้มซี้ด วีเอสแอสเทรย์ เป็นกันดั้มแอสเทรย์หมายเลขห้าที่สร้างโดยกลุ่มไลบราเรียนและเป็นโมบิลสูทประจำตัวของคาร์บอนฮิวแมนซึ่งมียีนของ รอนโด กินา ซาฮาคุ มิราจเฟรมนั้นต่างจากกันดั้มแอสเทรย์เครื่องอื่นๆคือใช้เกราะวาริเอเบิลเฟสชิฟท์แทนโฟมโลหะจึงทนทานกว่ามาก มิราจเฟรมยังใช้ระบบพรางตาด้วยอนุภาคมิราจคอลลอยด์ แต่นอกจากใช้พรางตัวแล้วยังสามารถใช้สร้างภาพลวงตาเพื่อให้ศัตรูเข้าใจผิดได้ โดยครั้งแรกที่ปรากฏตัวนั้น รอนโดได้ใช้มิราจคอลลอยด์ปลอมเป็นโกลด์เฟรมเพื่อให้คนอื่นๆเข้าใจผิด
ในเวลาปกตินั้นมิราจเฟรมจะเป็นร่างคอมมานเดอร์โหมดซึ่งมีลักษณะเหมือนกันดั้มแอสเทรย์แบบมาตรฐาน แต่จะแปลงร่างเป็นกลาดิเอเตอร์โหมดโดยหมุนตัวไปด้านหลัง ส่วนหัวของมิราจเฟรมนั้นมีเขาเสาอากาศสามเขา โดยคอมมานเดอร์โหมดจะมีเขาเดียวที่หน้าผาก และอีกสองเขาจะอยู่ที่หน้าผากของกลาดิเอเตอร์โหมด ดาบติดเท้าของมิราจเฟรมจะพับออกมาเหมือนกงเล็บ และดาบติดแขนก็จะพับมาด้านหน้าในร่างกลาดิเอเตอร์โหมด ดาบคะตะนะ "อาเมะโนะฮาบากิริ"ใช้วาริเอเบิลเฟสชิฟท์จึงสามารถเปลี่ยนสีได้และมีพลังทำลายสูง
ในเวลาต่อมา กันดั้มแอสเทรย์มิราจเฟรมได้ปรับปรุงอีกขั้นเป็นแบบ เซคันด์อิสซู โดยเพิ่มร่างแปลงอีกสองร่างคือไทแรนท์โหมด และ บรูทโหมด ซึ่งเป็นร่างสัตว์สี่เท้าแบบไกอากันดั้ม
M1 แอสเทรย์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ค้นหาบล็อกนี้